#1

พิงค์แซลมอนธรรมชาติจากจากอลาสก้าเป็นปลาแซลมอนที่เล็กที่สุดในบรรดาห้าสายพันธุ์ และเป็นปลาแซลมอนที่มีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในห้าสายพันธุ์

2 การรับรอง

การประมงพิงค์แซลมอนในอลาสก้าได้รับการรับรองภายใต้มาตรฐานการรับรองอิสระ จากสองหน่วยงานมาตรฐานสำหรับการประมงอย่างยั่งยืน: RFM และ MSC

2 ปี

พิงค์แซลมอนธรรมชาติในอลาสก้ามีวงจรชีวิต 2 ปี ทำให้มีจำนวนปีคี่และปีคู่ซึ่งไม่ปะปนกัน

ข้อมูลโภชนาการเพิ่มเติม

พิงค์แซลมอนธรรมชาติจากอลาสก้าเต็มไปด้วยโปรตีนที่มีคุณภาพสูง

โปรตีนคุณภาพสูงมีประโยชน์มากมาย ซึ่งจะช่วยในการสร้างและรักษามวลร่างกายที่ปราศจากไขมัน ช่วยควบคุมการเผาผลาญอาหาร มีผลทำให้รู้สึกอิ่มอาหารดีขึ้น ซึ่งนำไปสู่การรับประทานอาหารที่น้อยลงและช่วยการลดน้ำหนักได้ด้วย และยังมีส่วนช่วยทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงมากขึ้นส่งผลให้การเคลื่อนไหว ความแข็งแรง และมีความคล่องแคล่วที่ดีข้ึน

ที่สำคัญคือ ปลาพิงค์แซลมอนธรรมชาติมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ ได้มีการศึกษา เกี่วกับกรดไขมัน DHA และ EPA จากปลาพิงค์แซลมอนจากอลาสก้าอยู่มากที่สุด ทำให้ทราบว่าเป็นไขมันที่มีประโยชน์ และเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพและมีความพร้อมเพื่อให้ร่างกายได้ใช้งาน

ประโยชน์ของกรดไขมัน DHA และ EPA คือ มีผลทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น ช่วยให้การทำงานของสมองดีขึ้น และเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารกและทารกก่อนคลอด

DV = มูลค่ารายวัน // 3.0 oz = 85g ที่มา: USDA Standard Reference Release 28

พิงค์แซลมอนจากอลาสก้ามีจำหน่ายแบบสดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกันยายน และมีจำหน่ายแบบแช่แข็งตลอดทั้งปี

อุปกรณ์ในการจัปลาพิงค์แซลมอนในอลาสก้านั้น โดยมากจะใช้ตาข่ายและอวนล้อมจับ

ที่อลาสก้า ชาวประมงจะคำนึงถึงความยั่งยืนของปลาพิงค์แซลมอนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก มากกว่าที่จะฉวยโอกาสในการจับปลาเพียงอย่างเดียว

เนื่องจากปลาจากอลาสก้าเป็นทรัพยากรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จำนวนปลาแซลมอนที่กลับสู่แหล่งน้ำจืดเพื่อวางไข่ในแต่ละปีมีจำนวนต่างกันไป ผู้ดูแลในส่วนประมงที่อลาสก้ากำหนด ‘เป้าหมายการหลบหนี’ โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่ามีปลาจำนวนมากพอที่จะกลับสู่แหล่งน้ำจืดอย่างปลอดภัยเพื่อวางไข่และขยายพันธุ์ นักชีววิทยาคำนึงถึงความผันผวนตามธรรมชาติในการกลับมาของปลาแซลมอนโดยการจัดการประมงในฤดูกาลเพื่อให้แน่ใจว่าปลาพิงค์แซลมอนธรรมชาติในอลาสก้าจะมีความยั่งยืน

หลักการแห่งความยั่งยืนนี้ได้ถูกเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญของรัฐอลาสก้า ในอลาสก้า ปลาจะต้องถูก ‘ใช้ประโยชน์ พัฒนา และได้รับการบำรุงรักษาตามหลักการให้ผลผลิตที่ยั่งยืน’ เพื่อให้แน่ใจว่าปลาพิงค์แซลมอนธรรมชาติจะอาศัยอยู่ในน่านน้ำอลาสก้าสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป

นอกจากนี้ ปลาพิงค์แซลมอนธรรมชาติในอลาสก้ามีความสำคัญทางวัฒนธรรมเช่นเดียวกัน ครอบครัวในชุมชนชายฝั่งของอลาสก้าพึ่งพากับการตกปลาแซลมอนเพื่อยังชีพและความอยู่รอด ในการจัดการประมงปลาแซลมอนของอลาสก้า การยังชีพมีความสำคัญมากว่าการเล่นกีฬา การตกปลาเชิงพาณิชย์หรือการตกปลาส่วนตัว

การรับรอง

การประมงพิงค์แซลมอนในอลาสก้าได้รับการรับรองภายใต้มาตรฐานการรับรองอิสระ จากสองหน่วยงานมาตรฐานสำหรับการประมงอย่างยั่งยืน:

• การจัดการประมงอย่างมีความรับผิดชอบของอลาสก้า (RFM)
• มาตรฐานห่วงโซ่ของการคุ้มครอง (MSC)

พิงค์แซลมอนมีวงจรชีวิตที่ซับซ้อน เมื่อฟักออกจากไข่แล้ว พิงค์แซลมอนว่ายจากน้ำจืดสู่มหาสมุทรทันทีและใช้เวลา 18 เดือนในมหาสมุทรก่อนจะกลับสู่แหล่งน้ำจืดเพื่อวางไข่

พิงค์แซลมอนธรรมชาติในอลาสก้าเป็นสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดและอายุสั้นที่สุดในบรรดาปลาแซลมอนทั้งห้าสายพันธุ์ โดยทั่วไปแล้วพิงค์แซลมอนจะมีน้ำหนักประมาณ 3-5 ปอนด์ และมีอายุอยู่ได้เพียงแค่ 2 ปี เป็นสายพันธุ์ที่มีจำนวนมากที่สุดด้วยเนื่องจากว่าพิงค์แซลมอนขยายพันธุ์ได้เร็ว

พิงค์แซลมอนจากอลาสก้ามีทั้งแบบสดและแบบแช่แข็งประกอบไปด้วยรูปแบบผลิตภัณฑ์ดังนี้: ทั้งตัว, หรือทั้งตัวโดยไม่มีหัว ตัดเป็นชิ้นแบบพอร์ชั่น แบบฟิเล แบบกระป๋อง และแบบรมควัน นอกจากนี้ พิงค์แซลมอนยังมีไข่ปลาที่หลายคนชื่นชอบอีกด้วย

เนื่องจากรสชาติที่อ่อนนุ่ม พิงค์แซลมอนธรรมชาติจากอลาสก้าจึงเป็นปลาที่นำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายวิธีเป็นพิเศษ ใช้ได้เกือบทุกสูตรหรือวิธีการประกอบอาหารแบบใดก็ตาม พิงค์แซลมอนเป็นที่รู้จักกันดีเนื่องจากใช้เป็นปลาแซลมอนแบบกระป๋อง โรงบรรจุปลาแซลมอนได้เปิดดำเนินการในอลาสก้าตั้งแต่ทศวรรษ 1870 และความสำคัญของพวกเขาในอลาสก้ามีบทบาทในการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และอาจกล่าวได้ในหลาย ๆ ด้านว่า อลาสก้าถูกสร้างขึ้นได้เพราะพิงค์แซลมอน

ปลาพิงค์แซลมอนจากอลาสก้ามีวางจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ในส่วนอาหารแช่แข็งใกล้ๆคุณ และรวมถึงในส่วนอาหารสดตามฤดูกาลด้วย และถ้าคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับที่มา เพียง #AskforAlaska

ปลาเนื้อนุ่มสีอมชมพูนี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในราคาย่อมเยาสำหรับมื้ออาหารด่วนและสลัด เป็นปลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับทานกับซอส และสามารถนำไปอบ ย่าง ลวก ผัด รมควัน นึ่ง บรรจุในกระป๋อง หรือเป็นซูชิ/ซาชิมิ