1

การประมงแปซิฟิคค็อดเป็นหนึ่งในการประมงปลาหน้าดินที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นปลาที่จับได้มากกว่า 500 ล้านปอนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านเหรียญต่อปี

2

การประมงปลาค็อดในอลาสก้าได้รับการรับรองภายใต้มาตรฐานการรับรองอิสระจากสองหน่วยงาน เป็นมาตรฐานสำหรับการประมงอย่างยั่งยืน: RFM และ MSC

4

ปลาค็อดในอลาสก้าถูกจับด้วย วิธีการที่แตกต่างกัน คือ การตกปลาแบบ longline การประมงด้วยลอบ การทรอลิ่ง และการตกปลาแบบจิ๊กกิ้ง

ข้อมูลโภชนาการเพิ่มเติม

ปลาค็อดจากอลาสก้าอัดแน่นไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูงที่ปราศจากไขมัน

ปริมาณโปรตีนที่สูงในปลาค็อดธรรมชาติจากอลาสก้านั้นย่อยง่าย และมีกรดอะมิโนครบทั้ง 9 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง ซึ่งทำให้เป็นโปรตีนที่ครบสมบูรณ์แบบและมีคุณภาพสูง

ประโยชน์ของโปรตีนคุณภาพสูงที่ครบสมบูรณ์คือ

• การสร้างและรักษามวลร่างกายที่ไม่ติดมัน
• การควบคุมการเผาผลาญอาหาร
• ช่วยทำให้รู้สึกอิ่ม ซึ่งนำไปสู่การรับประทานอาหารที่น้อยลงและมีผลช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก
• มีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น มีผลต่อการเคลื่อนไหว ความแข็งแรง และความคล่องแคล่วที่ดีข้ึน

ประโยชน์ของซีลีเนียมคือ

• • เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ป้องกันการเสื่อมของระบบสมอง
  • สำคัญต่อสุขภาพของต่อมไทรอยด์
  • ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
  • อาจลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
  • อาจป้องกันโรคหัวใจ

DV = มูลค่ารายวัน // 3.0 oz = 85g ที่มา: USDA Standard Reference Release 28

ในอลาสก้ามีการทำประมงปลาค็อดตลอดทั้งปี โดยมีข้อจำกัดในการจับ เพื่อลดการจับสายพันธุ์อื่นโดยบังเอิญ

ปลาค็อดในอลาสก้าถูกจับด้วย 4 วิธีการที่แตกต่างกันดังนี้ การตกปลาแบบทรอลิ่ง การตกปลาแบบ longline การประมงด้วยลอบ และการตกปลาแบบจิ๊กกิ้ง

ที่อลาสก้า ชาวประมงจะคำนึงถึงความยั่งยืนของปลาแปซิฟิกค๊อดธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก มากกว่าที่จะฉวยโอกาสในการจับปลาเพื่อการค้าแต่เพียงอย่างเดียว 

หน่วยงาน NOAA Fisheries และ North Pacific Fishery Management Council ใช้แบบสำรวจเพื่อประเมินมวลชีวภาพและกำหนดขีดจำกัดในการจับปลา เมื่อได้รับการพิจารณาแล้ว ชาวประมงที่ถือใบอนุญาตจะได้รับการจัดสรรโควต้า  จำนวนใบอนุญาตนั้นถูกจำกัดเพื่อป้องกันการทำประมงเยอะเกินไป นอกจากนี้ หน่วยงาน NPFMC/NOAA ยังกำหนดขีดจำกัดเพื่อลดการจับสายพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่เป้าหมาย  และมีการตรวจสอบระหว่างการจับปลาในฤดูกาลอย่างเข้มงวดเช่นกัน วิธีการเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าปลาแปซิฟิคค็อดในอลาสก้าจะมีการทำประมงอย่างยั่งยืนและจะมีอาศัยอยู่ในน่านน้ำอลาสก้าเพียงพอสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป

การรับรอง

การประมงปลาแปซิฟิคค็อดในอลาสก้าได้รับการรับรองภายใต้มาตรฐานการรับรองอิสระจากสองหน่วยงาน เป็นมาตรฐานสำหรับการประมงอย่างยั่งยืน

• การจัดการประมงอย่างมีความรับผิดชอบของอลาสก้า (RFM)
• มาตรฐานห่วงโซ่ของการคุ้มครอง (MSC)

• ปลาค็อดในอลาสก้าเป็นสายพันธุ์ที่มีอายุค่อนข้างสั้น แต่อาจมีอายุยืนยาวมากที่สุดถึง 20 ปี
• ทุกปีปลาค็อดในอลาสก้าเดินทางร่วมกันเป็นฝูงจากพื้นที่วางไข่ในน้ำลึกไปยังพื้นที่หาอาหารในน้ำตื้น
• เช่นเดียวกับปลาดุก ปลาค็อดในอลาสก้ามีอวัยวะคล้ายหนวดใกล้กับปากที่เรียกว่า บาร์เบลคางยาว ซึ่งมีต่อมรับรสเพื่อช่วยในการหาอาหาร

ปลาค็อดธรรมชาติจากอลาสก้ามีจำหน่ายทั้งแบบสด และแบบแช่แข็ง มีจำหน่ายในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตลอดทั้งปี

แม้ว่าจะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องเนื้อที่ขาวเข้มข้น แต่ปลาค็อดก็เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย แก้มและท้องของปลาแปซิฟิคค็อดถือเป็นอาหารที่หรูหรา และไข่ปลาค็อดเป็นของอร่อยเป็นที่ต้องการในตลาดมากมาย  ผิวหนัง น้ำมันปลา และน้ำมันตับของปลาค็อดล้วนมีประโยชน์ทางโภชนาการ/เภสัชกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนและโอเมก้า 3  นอกจากนี้ ทั้งน้ำมันและปลาป่นจากปลาค็อดก็ถูกนำไปใช้ในอาหารเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

ปลาค็อดธรรมชาติจากอลาสก้าจะพบในส่วนอาหารทะเลแช่แข็งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในพื้นที่ใกล้ๆคุณ และรวมถึงในส่วนอาหารสด มีรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ปลาทั้งตัว แบบแล่ แบบคลุกกับเกลือ หรือ แบบชุบเกล็ดขนมปัง และถ้าคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับที่มา เพียง #AskforAlaska และมองหาโลโก้อาหารทะเลอลาสก้า

ปลาเนื้อขาวนี้มีเนื้อที่แน่นและรสชาติที่หวานเล็กน้อย สามารถนำไปปรุงได้กับเกือบทุกสูตร โดยการย่าง การลวก การนึ่ง การผัด และการทอด